5 อันดับกุนซือค่าเหนื่อยแพงสุดในพรีเมียร์ลีก

5 อันดับกุนซือค่าเหนื่อยแพงสุดในพรีเมียร์ลีก

     ก่อนที่การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ซีซั่นใหม่ 2021/2022 จะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 14 สิงหาคม 2564 นี้ ทางเราจะพาไปดูกันว่า ผู้จัดการทีมที่ได้รับค่าเหนื่อยแพงสุดในพรีเมียร์ลีก จะมีรายนามของกุนซือรายใดบ้าง นี่คือ 5 อันดับกุนซือค่าเหนื่อยแพงสุดในพรีเมียร์ลีก ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเงินคือหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุด ในการตอบตกลงเป็นผู้จัดการทีม ของเหล่าบรรดาทีมฟุตบอลต่างๆ กุนซือระดับชั้นนำเหล่านี้ ได้รับค่าเหนื่อยตอบแทนจำนวนมาก ในการยืนสั่งการลูกทีมอยู่ข้างสนาม ซึ่งมันก็จะมาพร้อมกับความกดดันจากทั้งแฟนบอล และเหล่าบรรดาผู้บริหารของสโมสร หากพาทีมทำผลงานไม่บรรลุตามเป้าหมาย ก็พร้อมที่จะถูกปลดออกจากตำแหน่งได้ทุกวินาที วันนี้พวกเราจะมาเปิดเผยให้ท่านผู้ที่รอติดตามได้อ่านในบทความนี้

5. โอเล่ กุนนาร์ โซลชา

     โอเล่ กุนนาร์ โซลชา ผู้จัดการทีมของ ทัพปีศาจแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด แม้ว่าเมื่อช่วงซีซั่นก่อนจะทำได้เพียงพาทีมคว้ารองแชมป์ถึงสองรายการ นั่นก็คือ รองแชมป์พรีเมียร์ลีก กับ รองแชมป์ยูโรปาลีก แต่ว่า เจ้าตัวยังคงได้รับการสนับสนุนจากบอร์ดบริหารให้ดำรงตำแหน่งกุนซือของ ผีแดง ต่อไปในอนาคตด้วยการได้รับการต่อสัญญาฉบับใหม่กับทีมต่อไปจนถึงปี 2024 โดยในสัญญาฉบับล่าสุดนี้ กุนซือหน้าทารกชาวนอร์เวย์เจี้ยนวัย 48 กะรัต จะยังคงได้รับค่าจ้างปีละ 7.5 ล้านปอนด์ เท่ากับสัญญาฉบับเดิม

4. มาร์เซโล่ บิเอลซ่า

     มาร์เซโล่ บิเอลซ่า กุนซือ ยูงทอง ลีดส์ ยูไนเต็ด แม้ว่าตอนนี้เจ้าตัวจะยังคงรับค่าจ้างอยู่ที่ปีละ 6 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นไปตามข้อตกลงในสัญญาฉบับปัจจุบันที่กำลังจะสิ้นสุดลงในช่วงกลางปีหน้านี้แล้ว แต่มีข่าวลืออย่างหนาหูว่า เทรนเนอร์ชาวอาร์เจนไตน์วัย 65 กะรัต พร้อมที่จะลงนามต่อสัญญาฉบับใหม่ขยายเวลาในการคุมทีมต่อไปในอนาคต เพราะทั้งฝั่ง ลีดส์ และ บิเอลซ่า ได้บรรลุตกลงเรื่องรายละเอียดต่างๆ กันได้แล้ว แต่ยังเหลือการเซ็นสัญญาอย่างเป็นทางการ และจะทำให้กุนซือวัยดึกรายนี้ได้รับเงินค่าจ้างเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 8 ล้านปอนด์

3. เบรนแดน รอดเจอร์ส

     เบรนแดน รอดเจอร์ส เทรนเนอร์คนเก่วของ ทัพจิ้งจอกสยาม เลสเตอร์ ซิตี้ ซึ่งมีระยะเวลาในสัญญาฉบับปัจจุบันยาวจนถึงปี 2025 และเจ้าตัวยังสามารถพาทีมคว้า แชมป์เอฟเอ คัพ เมื่อซีซั่นก่อนได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของ ทัพจิ้งจอกสยาม อีกด้วย แม้จะเขาจะพลาดโอกาสในการพาทีมเข้าป้ายเป็น 4 อันดับแรกในลีก ซึ่งจะได้ตั๋วไปฟาดแข้งในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้าแบบน่าเสียดาย แต่ตอนนี้ กุนซือชาวไอริชวัย 48 กะรัต ยังคงรับค่าจ้างในการคุมทีมสูงถึงปีละ 10 ล้านปอนด์

2. เจอร์เกน คล็อปป์

     เจอร์เกน คล็อปป์ กุนซือฮาร์ดแมนของ หงส์แดง ลิเวอร์พูล ซึ่งได้พาทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ที่เหล่า เดอะ ค็อป รอคอยมากว่า 30 ปี แม้ว่าจะเจ้าตัวจะพาทีมทำผลงานในศึก พรีเมียร์ลีก เมื่อซีซั่นก่อนได้ต่ำกว่ามาตรฐานของทีมแชมป์เก่า แต่เขาก็ยังคงสามารถพาต้นสังกัดติดท็อปโฟร์ได้โควต้าไปฟาดแข้งในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ฤดูกาลหน้าหน้าแบบเลือดตาแทบกระเด็น โดยในเวลานี้เทรนเนอร์เลือดด๊อยท์ช วัย 54 กะรัต ยังคงมีสัญญาผูกมัดกับต้นสังกัดจนถึงปี 2024 และเจ้าตัวยังคงได้รับค่าจ้างจาก หงส์แดง สูงถึงปีละ 15 ล้านปอนด์

1. โจเซฟ กวาร์ดิโอล่า

     เป็นใครไปไม่ได้เลยนั่นก็คือ โจเซฟ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า กุนซือสมองเพชรของ ทัพเรือใบสีฟ้า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เพิ่งพาทีมคว้าแชมป์เมื่อช่วงซีซั่นที่ผ่านมาได้ถึง 2 รายการ นั่นก็คือ แชมป์ลีกสูงสุดของเมืองผู้ดี อย่าง แชมป์พรีเมียร์ลีก และฟุตบอลถ้วยอย่าง แชมป์คาราบาว คัพ แม้พลาดในการ คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ไปอย่างน่าเสียดาย ด้วยน้ำมือของอริร่วมชาติอย่าง สิงห์โตน้ำเงินคราม เชลซี แต่ว่าเทรนเนอร์ชาวสแปนิชวัย 50 กะรัต ยังคงได้รับค่าจ้างจาก ทีมสีฟ้าแห่งเมืองแมนเชสเตอร์ ในสัญญาฉบับปัจจุบันสูงถึงปีละ 20 ล้านปอนด์ และยังคงเหลือระยะเวลาของสัญญาจนถึงปี 2023 เลยด้วย จึงยังคงรั้งตำแหน่งผู้จัดการทีมที่ได้รับค่าเหนื่อยจากการกุมบังเหียนมากที่สุดในศึก พรีเมียร์ลีก ต่อไป