ประวัติ เควิน เดอ บรอยน์ มิดฟิลด์จากแมนซิตี้

ข้อมูลส่วนตัว

ชื่อเต็ม : เควิน เดอ บรอยน์ (KEVIN DE BRUYNE)

วันเกิด : 28 มิถุนายน 1991 

สถานที่เกิด : เมืองโดรงเงิน ประเทศเบลเยียม 

ส่วนสูง : 181 เซนติเมตร 

ตำแหน่ง : กองกลางตัวรุก ปีก 

สโมสรปัจจุบัน : สโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 

ทีมชาติ : ทีมชาติเบลเยี่ยม

เควิน เดอ บรอยน์

เส้นทางสู่การเป็นนักเตะอาชีพของนักเตะกองกลางที่ทำประตูโหดเหมือนกองหน้า 

เควิน เดอ บรอยน์ เริ่มต้นการเป็นนักฟุตบอลกับประเทศบ้านเกิดของตนเองในปี 1997 ขณะที่มีอายุเพียงแค่ 6 ขวบกับสโมสร กาเฟเฟ่ ดรอนเกน ใช้เวลาฝึกฝนฝีมืออยู่ 2 ปีเขาก็ได้ย้ายไปอยู่กับสโมสรใหม่อย่าง เคเอเอ เกนท์ เขาใช้ระยะเวลาในการฝึกซ้อมกับสโมสรดังกล่าวยาวนานถึง 6 ปีเลยทีเดียว

จนกระทั่งในปี 2005 เขาก็ได้ย้ายไปอยู่กับสโมสร เคอาร์ซี เกงก์ ที่เจ้าตัวได้ย้ายขึ้นมาอยู่ในทีมระดับเยาวชนและได้ลงแข่งขันบ้างแล้ว ด้วยผลงานที่น่าประทับใจไม่ว่าจะเป็นการสร้างสรรค์เกมหรือแม้แต่การทำประตู ฝีเท้าที่พัฒนาก้าวหน้าเกินกว่าเพื่อนวัยเดียวกัน ทำให้ใช้เวลาไม่นานเขาก็สามารถขยับขึ้นมาเป็นตัวสำรองของทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ

และหลังจากนั้นเขาก็สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงของทีมได้อย่างงดงาม เข้าสู่ปี 2010 เขาก็กลายมาเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมในทันทีหลังจากที่สามารถระเบิดฟอร์มได้อย่างร้อนแรง ช่วยให้ทีมคว้าชัยชนะได้ง่ายเหมือนกับดีดนิ้ว สุดท้ายเขาก็ช่วยให้ทีมสามารถคว้า แชมป์การแข่งขันเบลเยี่ยมโปรลีก ได้สำเร็จในที่สุด 

เควิน เดอ บรอยน์

การเริ่มต้นใหม่กับสโมสรใหญ่ในพรีเมียร์ลีก 

แม้ว่าผลงานจะร้อนแรงแค่ไหนแต่เขาก็ยังคงต้องอยู่กับสโมสรเดิมต่อไปอีก 1 ฤดูกาล เนื่องจากลีกฟุตบอลในเบลเยี่ยมนั้นเป็นลีกที่ไม่ค่อยได้รับความสนใจสักเท่าไหร่ ถึงอย่างนั้นในปี 2012 สโมสรยักษ์ใหญ่ของ พรีเมียร์ลีก ก็ตัดสินใจดึงตัวเขาเข้าร่วมทีมในที่สุด นั่นก็คือ สโมสรเชลซี นั่นเอง

เขาย้ายมาในช่วงตลาดฤดูหนาวและได้รับสัญญาณนักเตะอาชีพด้วยค่าตัวเพียงแค่ 6.7 ล้านปอนด์เท่านั้น แถมระยะเวลาสัญญายังยาวถึง 5 ปีครึ่งเลยทีเดียว นอกจากนี้ทีมยังปล่อยให้เขาอยู่กับสโมสรเดิมจนจบฤดูกาลอีกต่างหาก หลังจากฤดูกาล 2011 จบลงเป็นที่เรียบร้อยเจ้าตัวก็ได้ย้ายมาอยู่กับ เชลซี อย่างเป็นทางการสักที

เควิน เดอ บรอยน์

เขาลงแข่งขันนัดแรกเป็นเกมกระชับมิตรที่ได้พบกับทีมใน เมเจอร์ลีก และช่วยทีมคว้าชัยชนะไปได้ด้วยคะแนนถล่มทลายกว่า 4 ประตูต่อ 2 มันเป็นช่วงเวลาการย้ายทีมที่ไม่ค่อยน่าภิรมย์สักเท่าไหร่เนื่องจากเขาเป็นเพียงนักเตะดาวรุ่งที่ยังไม่มีประสบการณ์เท่าที่ควร แถมรุ่นพี่ในทีมตอนนั้นยังมีแต่ตัวตึงอีกต่างหาก

ทำให้เขาถูกปล่อยตัวให้สโมสรในบุนเดสลีกายืมตัวไปใช้งาน 1 ฤดูกาล ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ยังคงสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมจนทีมไม่สามารถขาดไปได้ สามารถทำไปได้กว่า 10 ประตูและอีก 10 แอสซิสต์จากการลงสนามทั้งหมด 34 นัด ทำให้เขา คว้ารางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยม ประจำการแข่งขัน บุนเดสลีกา มาครองได้สำเร็จ

ด้วยเหตุนี้ เชลซี จึงรีบดึงตัวเขากลับมาเข้าร่วมทีมในทันที แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังคงไม่ได้เป็นนักเตะตัวจริงและไม่ค่อยได้รับโอกาสในการลงสนามสักเท่าไหร่ ทำให้เขาต้องระหกระเหินไปอยู่กับสโมสร โวล์ฟสบวร์ก ช่วยค่าตัวเพียงแค่ 18 ล้านปอนด์เท่านั้น แต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็สามารถระเบิดฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจ สามารถคว้ารางวัลส่วนตัวติดไม้ติดมือกลับมาได้เพียบ

การแจ้งเกิดอย่างเป็นทางการกับสโมสรแมนเชสเตอร์ ซิตี้

หลังจากสามารถโชว์ฟอร์มได้อย่างน่าประทับใจทำให้แมนซิตี้ให้ความสนใจและตัดสินใจดึงตัวเขาเข้ามาร่วมทีม มันเป็นโอกาสอีกครั้งที่เขาจะได้แก้ตัวในการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ช่วงเวลานั้นหลายคนต่างตั้งข้อกันข่าวว่าเขาเหมาะสมกับค่าตัว 55 ล้านปอนด์หรือไม่ แต่ตอนนี้เขาก็ได้พิสูจน์แล้วว่าทีมจำเป็นต้องมีเขา

และค่าตัวเพียงแค่ 55 ล้านปอนด์ดูเหมือนจะถูกไปด้วยซ้ำ เขาได้รับโอกาสในการลงสนามอย่างต่อเนื่องและใช้เวลาไม่นานก็กลายมาเป็นคนสำคัญของทีมในทันที ในฤดูกาล 2021 ทีมไม่มีกองหน้าธรรมชาติด้วยซ้ำไป แต่เขากลับสามารถทำประตูช่วยทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จอย่างงดงามเสียอย่างนั้น เชื่อเลยว่าคงไม่ง่ายที่แมนซิตี้จะปล่อยเพชรน้ำงามคนนี้ออกจากสโมสรไปง่ายๆ 

อ่านข่าวฟุตบอลเพิ่มเติม :: ประวัตินักฟุตบอล

ติดตาม Facebook :: Footballhits98

error: Content is protected !!