เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ กับการตัดสินใจ ที่เอาทั้งชีวิตเป็นเดิมพัน
เออร์ลิ่ง ฮาแลนด์ เริ่มก้าวเข้าสู่เส้นทางนักฟุตบอลมืออาชีพ และมีชื่อเสียงโด่งดังในปัจจุบันนี้ ที่สมารถยิงประตูแบบถล่มทลาย แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ เขาต้องตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ที่จะก้าวเท้าออกจากบ้านเกิด ตั้งแต่อายุ 19 ปี เพื่อไปค้าแข้งในต่างประเทศ และยังเป็นสโมสรใหม่ แต่เขาก็สามารถเอาชนะความกดดัน ความท้าทายต่างๆในชีวิต และยิงประตูได้ไปไร้ปราณี จนกลายเป็นที่ต้องการของหลายๆสโมสรในยุโรปในตอนนี้ มาดูกันว่ากว่าจะมาเป็น ฮาแลนด์ นักแตะดาวรุ่งดรีกรีระดับโลกได้เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง?

จุดเริ่มต้นที่ยิ่งใหญ่
ฮาแลนด์ เปิดตัวได้อย่างน่าทึ่ง และเป็นที่หน้าเหลือเชื่อต่อสายตา ในเกมแชมเปี้ยนส์ลีก ที่ลงเล่นให้กับ เร้ด บูล ซัลส์บวร์ก เขาสามารถทำแฮตทริกได้ในเกมนั้น ทำให้แฟนบอลหลายๆคน นึกถึงนักเตะในตำนานคนหนึ่งของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดคือ เวย์น รูนี่ ที่เขาทำได้ในปี 2004 ซึ่งในเกมนั้นกลายเป็นจุดเริ่มต้น กลายเป็นก้าวแรกที่เขาเดินบนเส้นทางลูกหนัง และกลายเป็นซุปเปอร์สตาร์ที่จับตามองมาตั้งแต่ตอนนั้น
โดยดาวยิงนอร์เวย์รายนี้ ก้าวขาลงสนามได้เพียง 2 นาทีเท่านั้นเขาก็สามารถทำประตูแรกได้อย่างน่าเหลือเชื่อ จากจังหวะลูกยิงไกลที่ทรงประสิทธิภาพ และไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น เขาสามารถยิงประตูที่ 2 ได้ในนาทีที่ 35 จากลูกยิงด้วยซ้ายที่ทรงพลัง และยิงลูกที่ 3 ได้เพิ่มอีกสร้างแฮตทริก พร้อมประกาศให้โลกได้รู้ ให้วงกาฟุตบอลต้องสั่นสะเทือน ว่าเขานี้และคือนักเตะที่จะมาสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของโลกวงการฟุตบอล

การเลือกก้าวสู่เส้นทางค้าแข้ง
เออร์ลอิ่ง เบราท์ ฮาแลนด์ เขาต้องตัดสินใจตั้งแต่ยังอายุน้อยที่ต้องปฎิเสธทีมยักษ์ใหญ่อย่าง ยูเวนตุส และไบเออร์ เลเวอร์คูเซ่น แต่กลับรับข้อเสนอของทีม เร้ด บูล ซัลส์บวร์ก เพราะเขามองว่า เป็นสโมสรที่เหมาะกับเขามากที่สุดในตอนนั้น
“ผมดีใจมากที่ยูเวนตุสสนใจในตัวผม แต่ผมคิดว่ามันยังเร็วเกินไปที่จะย้ายไปที่นั่น ซัลส์บวร์กคือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผม และเป็นทีมที่ดูเหมือนต้องการตัวผมมากที่สุด ผมจึงคิดว่าที่ซัลส์บวร์กผมจะมีโอกาสได้ลงเล่นมากที่สุด” ฮาแลนด์ให้สัมภาษ
และเขาก็ยังเสริมอีกว่า พ่อของเขา อัลฟี่ ได้เสนอชื่อนักฟุตบอลมากมายในวงการ เพื่อเป็นเอเย่นต์ให้กับเขา แต่เขาบอกกับพ่อว่า เขาต้องการพิสูจน์ตัวเอง และก้าวไปอย่าช้าๆ ก่อนที่เขาจะก้าวไปยังสโมสรใหญ่ๆที่มีการแข่งขันสูง

“ก่อนอื่น ผมต้องการที่จะพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าผมทำได้ดีกว่าสิ่งที่พ่อเคยทำไว้เสียก่อน และพ่อของผมเคยลงเล่นในพรีเมียร์ลีกไปถึง 181 เกม”
ซึ่งมาถึงตอนนี้ก็บ่งบอกได้เลยว่า การตัดสินใจของเขาในวันนั้น ทำให้เข้ามายืนอยู่จุดนี้ได้สำเร็จ และในตอนนั้นก็บ่งบอกได้เบยว่า อีกเป้าหมายหนึ่งของเส้นทางการค้าแข้งของเขาคือ พรีเมียร์ลีกอังกฤษ
โดยเพื่อนของเขาก็มองอนาคตของเพื่อนได้ตั้งแต่เยาว์วัยเลยว่า ฮาแลนด์ จะก้าวไปเป็นกองหน้าเบอร์หนึ่งของโลก และเพื่อนเขายังเสริมอีกว่า

“เขาคือสิ่งมหัศจรรย์ ความสูงความว่องไว และการครองบอลของเขา ทำให้คู่ต่อสู่ยากที่จะต่อกร มีทางเดียวที่จะหยุดเขาได้ นั่นคือการทำฟาวล์ ผลงานของเขาได้พิสูจน์แล้วว่า เขาสามารถก้าวขึ้นไปเป็นกองหน้าที่เก่งที่สุดในโลกได้”
ถึงแม้ว่าเขาจะถ่อมตัวเกินไป แต่มันเป็นทางเลือกที่ค่อนข้างที่ฉลาด เพราะมันทำให้เขาก้าวมาสู่โอกาสที่ได้เล่นทั้งในสโมสร และทีมชาติ ล่าสุดหลังจากย้ายมาเล่นให้กับ ดอร์ทมุนต์เขาก็สามารถสร้างแฮตทริกได้อีกครั้ง ซึ่งมันเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อ แต่มันเหมือนกับว่าตอนนี้เขากำลังสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ที่จะขึ้นมาแทน เมสซี่ และโรนัลโด้

ติดตามเพิ่มเติม :: เรื่องฟุตบอลน่าสนใจ
ข่าวเพิ่มเติม :: เว็บข่าวกีฬา
Facebook Fanpage :: Footballhits98