เส้นทางการเป็นโค้ชทีมชาติของ ซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง

ทีมชาติไทย นั้นมีการก่อตั้งขึ้นมายาวนานร่วมทศวรรษแล้ว มีกุนซือมากมายที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นมานั่งบนเก้าอี้และสร้างสรรค์ผลงานซึ่งก็มีทั้งดีและแย่ปนกันไป แต่หากพูดถึงกุนซือทีมชาติไทยที่เป็นตำนานและในทุกวันนี้ผู้คนก็ยังคงคิดถึงอยู่ก็คงจะหนีไม่พ้น โค้ชซิโก้ อย่างแน่นอน

เพราะเขานั้นเป็น กุนซือทีมชาติไทย ที่สามารถสร้างสรรค์ผลงานออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมจนเรียกได้ว่าเป็นยุครุ่งเรืองของทีมก็ว่าได้ จนถึงในปัจจุบันมีกุนซือต่างชาติหลายคนที่เข้ามารับตำแหน่งดังกล่าวแต่ก็ยังไม่สามารถทำผลงานเข้าขั้นเดียวกับเขาได้เลยแม้แต่น้อย

ซิโก้1

เส้นทางอาชีพการเป็นกุนซือของ โค้ชซิโก้ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง นั้นเริ่มต้นตั้งแต่สมัยที่เขายังคงเป็นนักเตะอยู่ เขานั้นได้ริเริ่มโครงการ ซิโก้ ทิปส์สัญจรที่ตัวเองทำหน้าที่ในฐานะโค้ชฝึกสอนการเล่นฟุตบอลให้กับบรรดาเยาวชนทั่วทั้งประเทศไทยมาตั้งแต่ในปี 2545 เลยทีเดียว หลังจากนั้นเขาก็สามารถผ่านการฝึกอบรมผู้ฝึกสอนระดับ B ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยได้สำเร็จ

และมันก็กลายมาเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เขานั้นได้ทำงานกุนซืออย่างที่หวังเอาไว้กับสโมสรแรกซึ่งเป็นสโมสรก่อนที่เขาจะแขวนรองเท้าสตั๊ดอย่าง ฮอง อันห์ ยาลาย ในเวียดนาม หลังจากประกาศเกษียณอายุอย่างเป็นทางการเขาก็ได้หันมาคุมสโมสรอย่างจริงจังโดยเริ่มต้นกับสโมสรในประเทศไทยอย่าง จุฬาฯ-สินธนา ที่ได้เลื่อนขั้นเข้าสู่การแข่งขันไทยลีกปี 2551 ฤดูกาลนั้นเจ้าตัวสามารถพาทีมจบอันดับที่ 8 ได้สำเร็จ

ในปีต่อมาก็มีการย้ายไปคุม สโมสรชลบุรี เอฟซี แทนและประสบความสำเร็จอย่างงดงามจนถึงขั้นที่ทีมสามารถคว้าตำแหน่งรองแชมป์มาครองและยังเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายในการแข่งขัน AFC CUP ได้สำเร็จอีกด้วย 

ต่อมาในปี 2553 เจ้าตัวก็ได้เดินทางกลับไปยังเวียดนามเพื่อคุมทีมเก่าอย่างฮอง อันห์ ยาลายอีกครั้ง แต่เพราะผลงานไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่จึงต้องกลับมาในประเทศไทยเพื่อคุมทีม BBCU FC ซึ่งอยู่ในดิวิชั่น 1 แทนและสามารถพาทีมก้าวขึ้นสู่การแข่งขัน ไทยลีก ได้อย่างงดงามด้วยการจบด้วยอันดับที่ 3 บนตาราง ในปี 2555 เขาได้เปลี่ยนสโมสรอีกครั้งโดยมาอยู่กับ บางกอก เอฟซี ซึ่งเป็นทีมดิวิชั่น 1 ที่กำลังพยายามหนีตายอย่างหนัก

ซิโก้3

โค้ชซิโก้ สามารถช่วยทีมจบที่อันดับ 10 บนตารางและรอดพ้นจากการตกชั้นได้อย่างงดงาม และสุดท้ายในปี 2556 เขาก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็น โค้ชทีมชาติไทย ในการแข่งขัน ซีเกมส์ 2013 โดยสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เขาสามารถทำงานได้อย่างน่าประทับใจด้วยการพาทีมคว้าแชมป์อย่างงดงาม

ในปีต่อมาก็ยังพาทีมชุดเดียวกันแต่เข้าร่วมการแข่งขัน เอเชียนเกมส์ 2014 ในประเทศเกาหลีใต้ก่อนจะคว้าอันดับ 4 มาครองได้อย่างน่าประทับใจเนื่องจากเป็นอันดับที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาหลังจากนั้นเขาก็ได้กลายมาเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอนให้กับทีมชาติไทยชุดใหญ่เพื่อเตรียมตัวเข้าร่วมการแข่งขัน AFF SUZUKI CUP 2014 ในทันที การแข่งขันในครั้งนี้ได้กลายมาเป็นปรากฏการณ์เพราะทีมสามารถคว้าแชมป์ได้สำเร็จในระยะเวลาร่วม 12 ปี

จนทำให้ทั่วทั้งประเทศไทยมีกระแสบอลไทยฟีเวอร์จนผู้คนเริ่มหันมาให้ความสนใจกับการแข่งขันกีฬาฟุตบอลมากขึ้นกว่าเดิม การแข่งขัน ฟุตบอลโลกในปี 2018 เขาก็ยังสามารถพาทีมโชว์ฟอร์มได้ดีอย่างต่อเนื่องด้วยการผ่านเข้ารอบ 12 ทีมสุดท้ายโซนเอเชียได้สำเร็จเป็นประวัติศาสตร์และยังได้โควตาเข้าร่วมการแข่งขัน เอเชียนคัพ 2019 ได้อีกด้วย

หลังจากนั้นผลงานของทีมชาติไทยก็เริ่มตกต่ำจนเจ้าตัวตัดสินใจลาออกและมาเป็นกุนซือให้กับทีมการท่าเรือ เอฟซี แทน แต่ผลงานกลับไม่น่าประทับใจสักเท่าไหร่จนสุดท้ายในปี 2563 เขาก็ย้ายไปอยู่กับสโมสรเก่าอย่าง ฮอง อันห์ ยาลาย ในเวียดนามตามเดิมและสามารถทำผลงานได้ดีจนเจ้าของทีมไม่อยากปล่อยกลับมาในประเทศไทยจนถึงทุกวันนี้ 

อ่านข่าวฟุตบอลเพิ่มเติม :: Top 10 Football

ติดตาม Facebook :: Footballhits98

error: Content is protected !!