ตระกูลเกลเซอร์ตั้งราคาขายแมนยูแพงหูฉี่

ตระกูลเกลเซอร์ตั้งราคาขายแมนยูแพงหูฉี่
มีเงินค่อยคุยกัน ลือตระกูลเกลเซอร์ตั้งราคาขายสโมสรแมนยูแพงหูฉี่ ตระกูลดังกล่าวได้ก้าวเข้ามาเป็นเจ้าของแมนยูนับตั้งแต่ช่วงประมาณปี 2003 พวกเขาได้ทยอยซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อยโดยเฉพาะจากบรรดาแฟนบอลทั้งหลายจนสามารถสะสมได้เป็นจำนวนกว่า 30 เปอร์เซ็นต์
ช่วงเวลาที่ผ่านมาตลอดระยะเวลานับปีแฟนบอลแมนยูหลายคนรู้สึกไม่พอใจการบริหารจัดการทีม
ของเจ้าของสโมสรอย่างตระกูลเกลเซอร์เป็นอย่างมาก ตระกูลดังกล่าวได้ก้าวเข้ามาเป็นเจ้าของแมนยูนับตั้งแต่ช่วงประมาณปี 2003 พวกเขาได้ทยอยซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นรายย่อยโดยเฉพาะจากบรรดาแฟนบอลทั้งหลายจนสามารถสะสมได้เป็นจำนวนกว่า 30 เปอร์เซ็นต์
จากนั้นก็ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของสโมสร จนกระทั่งในปี 2005 พวกเขาได้มีการเจรจาซื้อหุ้นกับมหาเศรษฐีใหญ่ชาวไอริชถึง 2 คนที่กำลังมีปัญหากับคุณซื้ออย่างเซอร์อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน จนทำให้เปอร์เซ็นต์หุ้นของพวกเขาพุ่งทะยานไปถึง 57 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว
ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยรับปากว่าจะคืนหุ้นให้กับบรรดาแฟนบอลทั้งหลายที่พวกเขาเคยกว้านซื้อมาในตอนแรก แต่มันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นเลยแม้แต่น้อย พวกเขายังคงบริหารจัดการทีมตามความชอบใจ ชอบนักเตะหรือกุนซือคนไหนก็เอาไว้ ไม่ชอบคนไหนก็ขายออก ผลงานของแมนยูหลายปีที่ผ่านมาจึงออกมาดีบ้างร้ายบ้าง
แต่ที่แน่นอนก็คือยังคงมีปัญหาภายในซุกเอาไว้ใต้พรมมากมายรอคอยการแก้ไข แฟนบอลแมนยูหลายส่วนจึงมีการออกมาต่อต้านในวิธีการที่หลากหลายตั้งแต่การใช้สื่อโซเชียลมีเดียไปจนถึงการก่อการจลาจลใน
ศึกวันแดงเดือดเลยทีเดียว แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีท่าทีว่าตระกูลดังกล่าวจะขายหุ้นให้กับเจ้าของคนใหม่แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามล่าสุดมีสืบชื่อดังจากอังกฤษอย่างเดลี่เมลได้ออกมาแฉว่าตระกูลเกลเซอร์นั้นมีการตั้งราคาขายสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดเอาไว้สูงถึง 3.75 พันล้านปอนด์เลยทีเดียว เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการที่จะทำตามสัญญากับแฟนบอลในการคืนหุ้นให้กับคนที่พวกเขาเคยกว้านซื้อมาในตอนแรก
แต่ถึงอย่างนั้นสำหรับแฟนบอลแมนยูแล้วในตอนนี้ก็คงมองว่าดีเสียกว่าที่แมนยูตกไปอยู่ในมือของคนอื่นแทนที่จะเป็นตระกูลเกลเซอร์ ไม่จำเป็นที่พวกตนจะต้องถือหุ้นเหมือนเดิมแต่อย่างใด นับว่าเป็นราคาการขายสโมสรที่ค่อนข้างแพงเลยทีเดียว
เพราะสโมสรเชลซีที่มีการขายทีมในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมาก็มีราคาอยู่ที่ไม่เกิน 3 พันล้านปอนด์เท่านั้น แต่ต้องไม่ลืมว่าเชลซีนั้นในฤดูกาลนี้ได้เข้าร่วมการแข่งขันแชมป์เปียนลีก ในขณะที่ผลงานที่ย่ำแย่ของแมนยูได้ส่งผลพวงมาจนถึงฤดูกาลนี้ที่พวกเขาได้แข่งขันเพียงแค่ยูโรป้าเช่นเดียวกัน
อย่างไรก็ตามเงินจำนวนนี้คงจะไม่แพงสักเท่าไหร่หากเจ้าของทีมคนใหม่ของแมนยูเป็นกลุ่มทุนจากตะวันออกกลาง ซึ่งมีข่าวลือออกมาเรื่อยๆ ว่ามีมหาเศรษฐีจากบริเวณดังกล่าวให้ความสนใจที่จะซื้อแมนยู
ไม่น้อยเช่นเดียวกัน
อัพเดตข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้
อ่านข่าวกีฬาเพิ่มเติม :: ข่าวกีฬาสดใหม่
ติดตาม Facebook :: Footballhits98