อี โฮ ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ

อี โฮ ประกาศแขวนสตั๊ดอย่างเป็นทางการ
ใจหายกันเป็นแถว อีโฮประกาศแขวนรองเท้าสตั๊ดอย่างเป็นทางการเรียบร้อยแล้ว นับตั้งแต่ที่มีการแต่งตั้งการแข่งขันไทยลีกเป็นลีกอาชีพของกีฬาฟุตบอลเมื่อปี 2007 ที่ผ่านมา ในช่วงเวลานั้นประเทศไทยไม่ได้มีนักเตะชาวต่างชาติจำนวนมากมายอย่างในทุกวันนี้ แต่ถึงอย่างนั้นสโมสรทั้งหลายก็พยายามทุ่มเงินกันอย่างเต็มที่เพื่อดึงตัวนักเตะชาวต่างชาติมาฝีมือเข้ามาพัฒนาทีมของตนเอง
การแข่งขันไทยลีกในประเทศไทยนั้นนับเป็นอีกหนึ่งการแข่งขันที่มีผู้เล่นชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียวที่เข้ามา
โลดแล่นโชว์ผลงานและช่วยยกระดับการแข่งขันฟุตบอลในประเทศไทยให้มีความเข้มข้นดุเดือดมากขึ้นกว่าเดิม นับตั้งแต่
ที่มีการแต่งตั้งการแข่งขันไทยลีกเป็นลีกอาชีพของกีฬาฟุตบอลเมื่อปี 2007 ที่ผ่านมา
ในช่วงเวลานั้นประเทศไทยไม่ได้มีนักเตะชาวต่างชาติจำนวนมากมายอย่างในทุกวันนี้ แต่ถึงอย่างนั้นสโมสรทั้งหลายก็พยายามทุ่มเงินกันอย่างเต็มที่เพื่อดึงตัวนักเตะชาวต่างชาติมาฝีมือเข้ามาพัฒนาทีมของตนเอง ผู้เล่นทีมชาติจำนวน
ไม่น้อยต่างตบเท้าเดินทางเข้ามาแข่งขันรายการไทยลีกมากขึ้นเป็นประจำทุกปี และหลายคนเลยทีเดียวที่สามารถสร้างชื่อให้กับตนเองจากการแข่งขันรายการดังกล่าวได้สำเร็จอย่างงดงาม
ดังนั้นมันจึงมีนักเตะจำนวนไม่น้อยเช่นเดียวกันที่อยู่ในการแข่งขันไทยลีกแต่พวกเขามีความสามารถถึงขั้นที่เคยผ่านการแข่งขันระดับโลกมาแล้ว หนึ่งในนั้นก็คือมิดฟิลด์ตัวรับจากเกาหลีใต้อย่างอี โฮนั่นเอง เขาได้ลงแข่งขันให้กับทีมชาติเกาหลีใต้ทุกนัดในการแข่งขันฟุตบอลโลก 2006 ที่ถูกจัดขึ้นในประเทศเยอรมัน
เขาเริ่มต้นการเป็นนักเตะอาชีพกับสโมสรอันดับต้นในเกาหลีใต้อย่างอิลซาน ฮุนได โดยได้รับสัญญาฉบับแรกเมื่อมีอายุได้เพียงแค่ 19 ปีเท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จอย่างงดงามเมื่อมีอายุเพียงแค่ 20 ปี เขาพัฒนาตนเองแบบก้าวกระโดดจนกระทั่งในปี 2005 เขาก็ได้รับการเรียกไปติดทีมชาติในที่สุด
หลังจากที่เจ้าตัวแข่งขันฟุตบอลโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาจะได้รับโอกาสให้ได้ไฟชิมลางการแข่งขันฟุตบอลในแถบยุโรปกับสโมสรเซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์กเมื่อปี 2006 และมันก็ทำให้เขากลายเป็นหนึ่งในนักเตะที่สามารถคว้าแชมป์ยูฟ่า คัพประจำฤดูกาล 2007 ได้สำเร็จอย่างงดงาม หลังจากนั้นอีก 2 ปีต่อมาก็ได้มีการเปลี่ยนชื่อการแข่งขันดังกล่าวเป็นยูโรป้า ลีกเหมือนกับในปัจจุบัน
หลังหมดสัญญากับสโมสรดังกล่าวเขาก็เริ่มออกเดินทางผจญภัยอีกครั้ง โดยเจ้าตัวกลับมาอยู่กับสโมสรในบ้านเกิดอย่างซองนัม อิลห์วา ชุนมา หลังจากนั้นไม่นานก็ย้ายไปอยู่กับสโมสรในซาอุดิอาระเบียและญี่ปุ่น เข้าสู่ปี 2011 เขาได้กลับคืนสู่สโมสรแรกในชีวิตอีกครั้ง แต่อยู่ได้ไม่นานเขาก็ต้องไปเล่นให้กับทีมของกองทัพเพราะต้องเข้าเกณฑ์ทหารตามกฎหมายของเกาหลีใต้
เข้าสู่ปี 2015 เจ้าตัวได้อยู่กับทีมเบอร์ 1 ของประเทศอย่างชนบุค ฮุนได มอเตอร์ เขาก็มีส่วนร่วมในการคว้าแชมป์ AFC CHAMPIONS LEAGUE 2016 ได้สำเร็จ จนกระทั่งเข้าสู่ปี 2017 ที่เส้นทางอาชีพของเขาได้มาบรรจบกับการแข่งขันไทยลีกของเราเป็นที่เรียบร้อย เจ้าตัวถูกสโมสรเมืองทองดึงตัวเข้ามาร่วมทีมด้วยค่าตัวนับ 50 ล้านบาท เขาสามารถช่วยให้ทีมสามารถเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายในการแข่งขัน AFC CHAMPIONS LEAGUE ได้สำเร็จเป็นครั้งแรก
ตลอดสามฤดูกาลที่ผ่านมาเขาเป็นนักเตะชั้นยอดและเป็นนักเตะตัวอย่างให้กับนักเตะชาวไทยทั้งหลาย จนกระทั่งเข้าสู่ปี 2021 เขาได้เดินทางกลับสู่ทีมบ้านเกิดอีกครั้งแต่ไม่ใช่ในฐานะนักเตะทั่วไป แต่ไปในฐานะโค้ชแอนด์เพลย์เยอร์ อย่างไรก็ตามในวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมาเป็นวันที่เจ้าตัวตัดสินใจจะแขวนรองเท้าสตั๊ด จบตำนานนักเตะเกาหลีใต้ที่เข้ามาพัฒนาการแข่งขันไทยลีกลงอย่างงดงาม
อัพเดตข่าวฟุตบอลต่างประเทศ :: ข่าวฟุตบอลวันนี้
อ่านข่าวกีฬาเพิ่มเติม :: ข่าวกีฬาสดใหม่
ติดตาม Facebook :: Footballhits98